จากกรณที่มีการพบรถยนต์นิสสัน พัลซ่าร์ สีขาวจมอยู่ในคลอง พร้อมศพเจ้าของรถคือ น.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลส์สาวขายปุ๋ย ซึ่งน่าจะจมนานกว่า 3 ปี จนเหลือแต่โครงกระดูก ล่าสุด วันนี้ (13 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านตาและยาย และบ้านเกิดของเซลล์สาว
ทางนายทอด วงษ์สิงห์ อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นตา รวมถึงพบป้าของ น.ส.กลิ่นเกษร มีท่าทางไม่สบายใจ เนื่องจากมีการนำเสนอข่าวออกไปต่างๆ
นานา อยากให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ โดยป้าของ น.ส.กลิ่นเกสร เผยว่า ตอนนี้ครอบครัวรู้สึกอึดอัด พูดอะไรไม่ออกเพราะเสี่ยเขาเป็นผู้มีอิทธิพล เขาจะมาฆ่าแกงกันอีกเมื่อไรไม่รู้ ต้องระแวงตลอดเวลารถใครเข้าออกก็ระแวงไปหมด
น.ส.กลิ่นเกษร กล่าวว่า พูดกันตรงๆ ว่าไม้ซีกจะไปงัดไม้ซุงได้อย่างไร ช่างมัน ถ้าตำรวจทำอะไรไม่ได้ก็ปล่อยเรา ก็คือตายฟรีไป หลักฐานแน่นขนาดนั้น มันฆาตกรรมอยู่แล้ว แต่เราเหมือนน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ได้ สาธุขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้จับคนร้ายได้เพราะโหดเหี้ยมมาก
วานนี้ (12 ธ.ค.) นางวรรณา เลิกกระจ่าง น้าสาวของ น.ส.กลิ่นเกสร ได้นำอัลบั้มรูปกิจกรรมโครงการพี่รักน้องมาให้ดู พร้อมเปิดเผยว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตามจับคนร้ายให้ได้ ตอนนี้เราก็เพียงสงสัย แต่จะไปพูดว่าคนโน้นคนนี้เป็นคนทำไม่ได้ เพราะหลักฐานที่มียังไม่ชัด แต่ว่าสงสัยน่ะสงสัยแน่ ตอนที่ไปเจอคนของเราอยู่ในชุดนอน เสื้อในก็ไม่มี พอเขาส่งข่าวมาทางผู้ใหญ่ว่าเจอหลานแล้วแต่เสียชีวิต รู้สึกจุกในคอพูดไม่ออกยังทำใจไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะโหดร้ายได้ขนาดนี้ ตนจุดธูปบอกหลานไปแล้ว ขอให้ช่วยดลใจให้เจ้าหน้าที่จับคนร้ายให้ได้ ใครทำขอให้ได้รับกรรม
นอกจากนี้ นางวรรณา ยังระบุด้วยว่า หลานมาเข้าฝันว่า ช่วยบอกเด็กๆ ด้วยนะ แล้วก็เข้ามากอดเบาๆ ข้างหลัง แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก ความหมายคือเหมือนมาสั่งลา แต่ยังเป็นห่วงเด็กๆ อยู่ เพราะทุกปีช่วงเทศกาลปีใหม่หลานสาวจะชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มาช่วยกันจัดกิจกรรมโครงการ ‘พี่รักน้อง’ โดยจะมีเด็กๆ ในหมู่บ้านมาร่วมกิจกรรมทุกรุ่นทุกวัย โดยรุ่นพี่จะเป็นพี่เลี้ยงจัดกิจกรรม เริ่มทำกิจกรรมมาตั้งแต่ปี 2547 ขณะที่หลานสาวหายตัวไปตนก็ทำได้แต่เพียงบอกว่าหลานไปทำงาน
ตำรวจส่งกล้องหน้ารถเซลล์สาวตรวจพิสูจน์ ไขปมอยู่กับเสี่ยสระบุรีเป็นคนสุดท้ายหรือไม่
จากกรณที่มีการพบรถยนต์นิสสัน พัลซ่าร์ สีขาวจมอยู่ในคลอง พร้อมศพเจ้าของรถคือ น.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลส์สาวขายปุ๋ย ซึ่งน่าจะจมนานกว่า 3 ปี จนเหลือแต่โครงกระดูก ล่าสุดวันนี้ (13 ธ.ค.) พล.ต.ต.ชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี ได้เรียกประชุมตำรวจทุกฝ่ายเพื่อสรุปความคืบหน้าการสอบปากคำพยานและหลักฐานที่พบในจุดเกิดเหตุรวมถึงคดีเมื่อปี 2559 ที่เซลส์สาวหายตัวไป เพื่อคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็ว โดยพล.ต.ต.ชัยน์วัฒน์ เผยว่า ในตอนแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารไว้ 2-3 ประเด็น คือเรื่องธุรกิจของผู้ตาย ประสงค์ต่อทรัพย์ และปมชู้สาว
จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งไปที่ประเด็นชู้สาวมากกว่า อีก 2 ส่วนแนวทางการค้นหาพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นการสอบพยาน รวมถึงสำนวนคดีเก่าเมื่อปี 2559 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมไว้เพื่อประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทราบว่า โครงกระดูกที่พบในรถยนต์เก๋ง นั้นคือ น.ส.กลิ่นเกสร ซึ่งจะใช้เวลาตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่เกิน 20 วัน จึงจะสามารถเดินเรื่องคดีต่อไปได้ว่าสาเหตุและการเสียชีวิตเกิดจากใครเป็นผู้กระทำ
ส่วนกล้องหน้ารถคันดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งตรวจเพื่อกู้ภาพในวันที่มีการฆาตกรรม ซึ่งก็ยังไม่มีการแจ้งข้อมูลในส่วนนี้กลับมา ขณะที่หลักฐานอื่นๆ ที่ต้องอาศัยนิติวิทยาศาสตร์ ก็ยังไม่มีผลการตรวจสอบออกมา อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามคลี่คลายคดีนี้อย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ผู้ที่กระทำความผิดมารับโทษทางกฎหมาย
สำหรับประเด็นชายสูงวัย เสี่ยบริษัทปุ๋ยชื่อดังของจังหวัดสระบุรี ที่คอยสนับสนุนการทำธุรกิจ เปิดร้านขายสเต็กและให้เช่าชุดไทย ในอำเภอพระพุทธบาท ที่คาดว่าอยู่กับเซลล์สาวเป็นคนสุดท้ายก่อนหายตัวไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีเมื่อปี 59 และหลักฐานที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างรัดกุมเพื่อเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไปได้
วานนี้ (12 ธ.ค.) ตำรวจได้นำกำลังเข้าปิดล้อมลานจอดรถชั้น 2A คอนโดมิเนียมหรู ริมถนนกรุงเทพ-นนท์ 8 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนจับกุม นายสุรเดช หรือแบงค์ ทรัพย์เจริญดี อายุ 25 ปี พร้อมของกลางเฮโรอีน 288 กรัม ยาไอซ์ 1.2 กิโลกรัม ยาบ้า 26,000 เม็ด และกัญชา อัดแท่ง 9 กิโลกรัม
การจับกุมครั้งนี้ ได้รับเบาะแสข้อมูลมาจากญาติผู้ต้องขัง ว่ามีข้อมูลผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ และต้องการให้ข้อมูลกับตำรวจ เพื่อต้องการที่จะได้รับการลดโทษ จากนั้นจึงมีการสืบสวนข้อเท็จจริง จนได้ข้อมูลว่า นายแบงค์ เป็นเอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่ พักอยู่ย่าน จ.นนทบุรี และตำรวจได้ออกหาเบาะแสทราบว่านายแบงค์ พักอาศัยอยู่คอนโดนิเนียมริมถนนกรุงเทพ-นนท์ 8
พ่อค้ายาเสพติดรายนี้ จำหน่ายยาเสพติดชนิดต่างๆ ตามแต่ลูกค้าจะสั่ง โดยจะเป็นผู้นำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุมจนกระทั่งพบกำลังเดินออกมาไปยังลานจอดรถยนต์ จึงแสดงตัวขอตรวจค้น จนพบเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าเสื้อหน้าอกด้านซ้าย จากนั้นขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักจึงพบยาเสพติดชนิดต่างๆอีกจำนวนมากวางอยู่ข้างประตู และในกระเป๋าเป้ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้าห้องนอน
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร